Wednesday, April 1, 2009

กลับมาเเฮ้น @_@~

กลับมาเเฮ้น = กลับมาเเล้ว (หลังจากหายไปเป็นอาทิตย์ -__-)

ไม่ใช่ศัพท์ของภาษาอะไรหรอกครับ ผมมั่วมันขึ้นมาเองเเหละ = =" (ถ้าเจอผมบ่อยๆ จะรับรู้ได้ว่าผมชอบใช้คำเเปลกๆ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนตัวสะกดหรือมั่วพยางค์ขึ้นมาเองนะคร้าบ -0-" << โดยที่บางทีก็มั่วไม่รู้ตัวออกมาเป็นคำหยาบซึ่งผมไม่รู้จักเเล้วก็ต้องมีคนตักเตือน - -") เอาเถอะครับ บอกก่อนเลยว่าวันนี้มาบ่น (เเล้วหวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายในรอบเดือน - -" เพราะผมหวังว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นดีๆ "เร็วๆ นี้"...) ผมนา.. หงุดหงิดเเม่มากๆเลย ไม่พูดเรื่องก่อนหน้านี้นะครับ ขอเล่าที่มันผ่านมามาดๆ หน่อย

เรื่องดิจิไวซ์ เมื่อวันเสาร์ที่เเล้วผมไปกินข้าวกับญาติมา (ที่มีคนหนุงจบเป็นเเพทย์กับคนหนุงเรียนอยู่เป็นทันตะน่ะครับ)

ผมขอเเม่ให้ซื้อดิจิไวซ์ให้หน่อย (อยากได้ = =) เนื่องจากงวดนี้ผมเกรตดีขึ้นมากๆๆๆ (โดยที่เเม่ไม่รู้สาเหตุเพราะ psp -__-) เลยน่ะครับ

แม่ผมก็เลยตกลง (โหเเน่ละครับ.. เเม่ไปรีบเกรตมาเมื่อวันศุกร์ ลูกตัวเองเกรตขึ้นจาก 2.7 ห่วยๆ กลายเป็น 3.48 นิครับ ที่เเน่ๆ วันนั้นเขาพูดอะไรเเทงใจผมสุดๆ เขาพูดว่า "เรากลับมาเป็นเเม่ลูกกันนะ" ที่เหลือคิดเอาเองครับ -*-..) แต่เขาบอกกับผมว่า ผมต้องสัญญาก่อนว่าจะเล่นเเค่ตอนปิดเทอม ไม่งั้นเขาไม่ซื้อให้

ผมก็โอเคๆๆ ไปก่อนเลย (ไม่งั้นไม่ได้ซื้อเเน่ๆ -___-)

พอซื้อเสร็จผมก็เอามันมากดเล่นนิดๆ หน่อยๆ เเล้วก็ปรับเวลาให้มันไปนอน (ดิจิไวซ์อันนี้เป็นของรุ่น Digimon Savers เรียกว่าอะไรผมไม่รู้เพราะไม่ได้ติดตาม เเต่ระบบเกมมันเป็นเหมือนทามาก๊อตจิน่ะครับ)

เสร็จวันรุ่งขึ้นก็ยังไม่ทันทำไรกับเครื่องนี้เลยครับ เเม่ก็บอกให้ถอดถ่านไปฝากไว้ที่ตัวเเม่เเล้วก็บอกให้ผมเอาตัวเครื่องไปเก็บไว้ในตู้ (ตู้วางของโชว์ผมน่ะ =__=)

ผมก็หงุดหงิดๆ ในใจเเต่ก็ถอดถ่านไปให้เเต่โดยดี

เเล้วหลังจากนั้นเเม่ผมก็พูดกับผมเเบบปกติ (ไม่เเปลก คงดีใจสุดๆ ที่ลูกได้เกรตเเบบนี้ ดีใจออกนอกออกตาจนพี่ผมชวนไปซื้อเสื้อผ้าก็ได้เสื้อผ้ากลับบ้านมาตรึม)

จบไปเรื่องหนึ่ง.. (ใช่มันยังมีอีก -*-)

2-3 วันต่อมาผมเอาเรื่องดิจิไวซ์ไปเล่าให้เพื่อนที่ร.ร.ฟัง -0-.. เเล้วมันอยากเห็น (อยากเห็นว่าผมป่านนี้โตขนาดนี้เเล้วยังเล่นอยู่อีกหรอ = ="?)

คืนนั้นผมเลยลองไปขอเเม่ผมดู (ขอดีๆ ขอเเบบสุดๆ เเล้วก็ตื้อสุดๆ อ๊ะ - -) ผมไปขอเขาเเค่ตัวเครื่อง ไม่ได้จะเอาถ่านคืนเลย สรุปคือเขาก็ไม่ให้ครับ

เหตุผล: เขากลัวผมไปยืมถ่ายเพื่อนผมเเล้วเเอบเล่น -*-..........

เห้ย บ๋าป๋ะ? ถ่านเครื่องนี้ถ้าผมจำไม่ผิดมันใช้ถ่ายเเบบ CS 2022 ไรนั้นนะ?? (ถ่านเเบนๆ เล็กๆ น่ะครับ)

ผมเลยบอกไปว่า: เห้ยม๋า ป่านนี้ยังมีใครปัญญาอ่อนเหมือนผมซื้อเครื่องนี้มาเล่นอีกหรอ?

เเม่เขาก็ตอบคำตอบมา.. กวน กวน กวนผมสุดๆ เลยครับ: เเม่จะไปรู้หรอ? เเม่ไม่ได้อยู่วงการเด็ก

โหย เเม่คร้าบบบบบบบบบบบ ไม่ได้อยู่วงการเด็กเเต่ใครๆ เขาก็ดูรู้คร้าบบบบบ!!!

ผมก็เข้าใจ เเม่ผมคงกลัวผมเเอบเล่น (เขาพึ่งบอกมาอานะว่าเขารู้ว่าผมเเอบเล่น เเต่ไม่รู้ว่าเล่นอะไรหรือมากเเค่ไหน - เขาไม่ได้เห็นผมหรอก เเม่เขาคงรู้สันดารผมเเล้วกระมั้ง)

เรื่องสาม.. งานหนังสือ

แม่ผมบอกให้ผมใช้ตังค์ซื้อนิยายเอาเองครับ (ตังค์ที่ผมได้คือเฉพาะเเค่วันไปร.ร.น่ะ ได้วันละเท่าไรรู้ไหม..? [50 บาท] เเล้วข้าวที่ผมกินที่ร.ร.จานหนึ่งซึ่งกินก็ไม่อิ่มมัน [45 บาท] ครับ) ผมจะบ้าตาย

พูดเเค่ไหนเเม่ก็ไม่ฟัง เเม่เขาพูดมาว่า: ก็บอกเเล้วว่าอะไรพวกนี้ให้ซื้อเอง เพราะมันยังเปิดเทอมอยู่ ถ้าปิดเทอมจะซื้อให้ (เเล้วปิดเทอมผมขอเเม่ซื้อเกิดอะไรขึ้นอีกรู้ไหมคั๊บ??? เขาก็บอกว่าผมซื้อเยอะไปอีก!!! จนหลายรายการไม่ได้ซื้อน่ะ!!)

สุดท้ายก็ต้องหวังพึ่งตังค์ที่ผมอดข้าวที่ร.ร.ทุกๆ วันเเล้วก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พ่อฟัง พ่อก็ให้ตังค์มาครับ @_@ ... (ได้มาพอซื้อนิยายที่อยากอ่านบ้างเเต่ยังไม่หมดเลย T_T)

เเม่ผมเเถมมาวันนั้นด้วยนะ ว่าให้ไปงานหนังสือเเค่ครั้งเดียว .... เห้ย!! มันจะมากไปเเล้ว!! (ไปงานหนังสือมากกว่าครั้งหนึ่งมันผิดยังไงครับ!? ผมจะไปค้ายาบ้าหรอไง!!)

เอาเหอะ.. ผมไปพูดๆ กับพ่อเเล้วพ่อก็บอกจะพยายามพาผมไปอีกทีวันเสาร์นี้..

เรื่องสุดท้าย.. เกิดขึ้นวันนี๊

ผมตื่นขึ้นมาอาบน้ำ เเต่งตัว ลงไปปุ๊ป เเม่ก็ถามว่าหวีผมเเล้วหรือยัง? (เนื่องจากสภาพหัวผมคงจะกระเซิง)

ผมก็หงุดหงิดๆ เเล้วก็ขึ้นไป เป็นเเบบนี้เกือบทุกเช้า เขาจะบังคับให้ผมหวีผม เพราะผมไม่เคยหวี

ผมเคยถามเขาไปว่าหวี หวี หวีทำไม? เขาก็บอกให้หวีให้มันเรียบร้อย จะได้ดูเป็นปกติกับคนอื่นเขาบ้าง =__=.. (โอ๊ย เเม่จ้า อยากจะบอกว่าถึงผมจะหวีหรือไม่หวีผมน่ะ คนที่โรงเรียนผมมันก็ยังมองผมเป็นตัวประหลาด ตลอดเเหละครับ พวกมันชอบมองผมเหมือน ไอ้คนบ้า ไอ้บ้าเกม ไอ้บ้าการ์ตูน คนสติเเตกเงี่ย.. << ผมยังเจ็บใจที่คนๆ หนึ่งมันด่าว่าเกมกับการ์ตูนไร้สาระอยู่เลยครับ >_> ) หงุดหงิดๆ ครับ

เเต่เเปลกนะ.. เดียวนี้ผมไม่เเสดงอาการหงุดหงิด มันออกมาเป็นความเงียบเเทน.. (ทั้งๆ ที่เเต่ก่อนถ้าเป็นเเบบนี้ผมจะหัวเสียมากๆ เเล้วก็เเว๊ดใส่คนไปทั่ว)

เเค่นั้นยังไม่พอ ก่อนออกจากบ้านผมมองลงไปในชามเข้าซึ่งเป็นอาหารเช้าของผม (ผมกินอาหารระหว่างเดินทางจากบ้านไปร.ร.ในรถน่ะ) มันเป็นข้าวผัดปลาเค็มที่เเม่ฝากพ่อซื้อจากภัตตาคารจีนเมื่อวาน
เเล้วเเทนที่มันจะผัดด้วยปลาเค็ม คราวนี้ผัดด้วยกุ้ง... เเล้วก็ซอสมะเขือเทศ.......
ผมมองหน้าเเม่เเล้วพูดว่า.. "ม๋า... ทำไมคราวนี้มัน..?" เเม่ผมก็พูดมาอย่างรีบๆ ว่า "เอาเหอะนาๆ เปลี่ยนบ้างๆ"
เอ๋อ... สำหรับทุกท่านที่ไม่รู้เเต่ว่าผม... เกลียดซอส(โดยเฉพาะซอสมะเขือเทศ) กับอาหารทะเล อย่างสุดใจเลยละครับบบ OTL!!!
สุดท้ายผมก็ดื่มนมไปเเค่ขวดเดียว... (ขวด 450 ml น่ะครับ..) เเล้วผมก็เเอบเคืองเเม่อยู่ในใจ เพราะเเม่เคยทำเเบบนี้มาเเล้ว เเล้วเเม่ก็รู้ดีที่สุดด้วยว่าผมเกลียดอะไรบ้าง จนในที่สุดก็ถึงโรงเรียนเเล้วผมก็ไม่ได้กินมันสักคำเลยครับ
สงสัยวันนี้คงต้องกดทั้งข้าวเช้าข้าวกลางวัน... (เจอกับผมหนหน้าเลือดจะออกในกระเพาะอาหารไหมเนี่ย T_T")

เฮ้อ.. สุดท้ายเลยนะครับ เมื่อวาน
ผมกำลังคุยอยู่กับมิว อย่างมันส์เเล้วสนุกสนาน
มีคนร่วมทำ project วิชา Asian Studies (ซึ่งจะส่งพรุ่งนี้เเล้วมันยังไม่ทำไรสักเเฮ๊ะ..) กับผมมันเดินเข้ามาหาผมเเล้วก็พูดล้อเล่นขึ้นว่า "เเหม พรีมบ่นใหญ่เลยนะ"
ผมก็บันดาลโทสะไม่อยู่ละ - -" ผมพูด(ด่า)มันกลับไปว่า "เอ่อ ใช่กูอะบ่นใส่เพื่อนกู ไม่ได้เหมือนพวกมึงนี้ที่มีคนคอยคุยด้วยอยู่ทั้งวัน ไม่ใช่เหมือนกูที่ต้องรอคุยเเค่ตอนเลิกเรียน!!"

จบเถิดๆๆ มันจะยาวเกิ๊นอีกเเล้ว@_@

หวังว่าคราวหน้าจะมาพร้อมข่าวดีขอรับๆ (ผมน่าจะได้ psp จากญาติภายในอาทิตย์นี้นะ orz)
===========
[มันก็เหงาจริงๆ นะไม่มีคนคุยด้วยที่โรงเรียน เดินไปไหนก็ต้องเดินคนเดียว ทำอะไรก็ต้องทำคนเดียว]
[มีเเค่มิวที่เป็นเพื่อน เเละคุยได้เฉพาะเเค่ตอนเลิกเรียน]
[ถ้าผมอยู่โรงเรียนเก่านะ จะมีเรื่องอะไรสนุกเเละขำขันเล่าลงบล็อกได้ทุกๆ วันเลย]

3 comments:

ไดแมวน้ำ~ said...

ยาวดี อ่านเพลินเลย หุหุ

รู้สึกเหมือนว่า สำเนียงพรีมมันน่าสนุกแฮะ =w="

mew312 said...

เห้ยยย มา RIST ชิ - -*

จะสอบเข้า RIS ผ่านป่าวหว่า อังคารหน้ารู้กัน!!

MaNETsu said...

ภัตตาคารจ้าพรีม ไม่ใช่ พัตคาร

เรื่องมันผ่านไปแร้น ปัจจุบันก็สู้ๆเน้อ~

พี่เป็นกำลังใจให้จ้า